ห้างสรรพสินค้าก่อสร้างสะพานลอยโดยกรมทางหลวง ทำให้เกิดความเดือดร้อนเกินกว่าที่ควรคาดหมายแก่โจทก์ โจทก์เรียกค่าเสียหาย ให้รื้อถอนสะพานลอยข้ามถนน คำถามว่า การสร้างสะพานลอยพิพาทเป็นการใช้สิทธิอันเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินกว่าที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติหรือเหตุอันควรเป็นละเมิดต่อโจทก์ตามคำพิพากษาศาลล่างหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และจำเลยร่วมร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 300,000 บาท ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน ศาลฎีกา พิพากษายืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4857/2553
จำเลยที่ 1 ที่ 2 และจำเลยร่วม ร่วมกันกำหนดจุดก่อสร้างสะพานลอยพิพาท เพื่อประโยชน์ในทางธุรกิจการค้าของจำเลยที่ 2 และจำเลยร่วม อันเป็นการใช้สิทธิของตนเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินกว่าที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติหรือเหตุอันควร อันเป็นละเมิดต่อโจทก์
________________________________
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนสะพานลอยข้ามถนนดังกล่าวออกไปด้วยค่าใช้จ่ายของจำเลยทั้งสอง และให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 10,000 บาท นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะรื้อสะพานลอยออกไป
จำเลยที่ 1 ให้การขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เรียกบริษัทราชสีมาชอปปิ้งคอมเพล็กซ์ จำกัด เข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
จำเลยร่วมให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาโจทก์ถึงแก่ความตาย นางกิมเฮียงทายาทและผู้จัดการมรดกของโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต และต่อมานางกิมเฮียงถึงแก่ความตาย นางสาวนฤมลทายาทของโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และจำเลยร่วมร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 300,000 บาท โดยให้จำเลยที่ 1 รับผิดเพียง 1 ใน 4 ส่วน กับให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และจำเลยร่วมใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความให้ 5,000 บาท คำขออื่นให้ยก
จำเลยที่ 1 และจำเลยร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน แต่ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และจำเลยร่วมใช้ค่าทนายความชั้นศาลชั้นต้น 3,000 บาท แทนโจทก์ คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ที่เรียกเก็บเกินมาให้แก่จำเลยที่ 1 และจำเลยร่วม ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธณ์ให้เป็นพับ
จำเลยที่ 1 และจำเลยร่วมฎีกา
ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ 1 และจำเลยร่วมว่าการสร้างสะพานลอยพิพาทเป็นการใช้สิทธิอันเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินกว่าที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติหรือเหตุอันควรเป็นละเมิดต่อโจทก์ตามคำพิพากษาศาลล่างหรือไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 และจำเลยร่วมร่วมกันกำหนดจุดก่อสร้างสะพานลอยพิพาทเพื่อประโยชน์ในทางธุรกิจการค้าของจำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมอันเป็นการใช้สิทธิของตนเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินกว่าที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติหรือเหตุอันควร อันเป็นละเมิดต่อโจทก์ตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 1 และจำเลยร่วมฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ
( อภิรัตน์ ลัดพลี - นพวรรณ อินทรัมพรรย์ - ธนฤกษ์ นิติเศรณี )
ศาลจังหวัดนครราชสีมา - นายคมกฤช กนกประดิษฐ
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 - นายตั้งใจ ศาสตร์ศศิ
มาตรา 1337 บุคคลใดใช้สิทธิของตนเป็นเหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ได้รับความเสียหาย หรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไป ตามปกติ และเหตุอันควรในเมื่อเอาสภาพและตำแหน่งที่อยู่แห่งทรัพย์สินนั้นมา คำนึงประกอบไซร้ ท่านว่าเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มีสิทธิจะปฏิบัติการเพื่อยัง ความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไป ทั้งนี้ไม่ลบล้างสิทธิที่จะเรียกเอาค่าทดแทน